“ชัชเตาปูน”เกี่ยวข้าวไว้แจกจ่ายปชช.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในยุคโควิด-19
หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท จับมือชาวบ้านปลูกข้าวไร้สารเคมี เพื่อแจกจ่ายให้กับ ปชช.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในยุคโควิด-19 พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรพอเพียง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.พ.64 นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทได้ร่วมกับชาวบ้านลงมือเกี่ยวข้าวในนาของตัวเองจำนวน 120 ไร่ ที่ ต.บางกระสัน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อเตรียมไว้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากจน
นายชัชวาลล์ กล่าวว่าข้าวที่เกี่ยวได้ในวันนี้จะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากจนได้มีข้าวกิน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การให้ความช่วยเหลือจริงเป็นเรื่องสำคัญ และพื้นนาแห่งนี้ผมได้ซื้อไว้นานแล้วกว่า20ปีได้ทำการปลูกข้าวหอมช่อราตรีไว้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากจน ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านคนหนึ่งมาหาที่บ้าน บอกว่าให้ช่วยซื้อพื้นนาแห่งนี้ เนื่องจากจำนองไว้ จะถูกยึดรวมแล้วประมาณ 120 ไร่ จึงซื้อเอาไว้ เพราะคิดว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกปีผมได้แจกจ่ายข้าวให้กับประชาชนเมื่อเราทำแบบนี้ทุกปีก็เลยคิดว่าซื้อพื้นนานี้ไว้ดีกว่าเพื่อที่จะได้ปลูกข้าวแล้วสีข้าวแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อยากจน
นอกจากนี้ผมยังได้ขุดสระ ขุดคลอง เลี้ยงปลา โดยแบ่งออกจากพื้นดิน 120 ไร่ ขุดสระ ขุดคลองประมาณ 50 ไร่ เพื่อใช้น้ำเหล่านี้ในการปลูกข้าว ผมทำธนาคารน้ำใต้ดินมีน้ำไว้ปลูกข้าว ปลูกผักได้ตลอดทั้งปี ผมเดินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีมาต่อยอด ผมคิดเสมอว่าอย่างน้อยคนไทยต้องมีแบบนี้ทุกครัวเรือน แต่ก่อนเราใช้คำว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” แต่ตอนนี้ต้องเพิ่มคำว่า “ในมือมีหุ่นยนต์” สิ่งที่ผมคิดให้คนไทย คือ การมีน้ำทุกหนทุกแห่ง ท่านลองคิดดูว่า เราจะมีเทคโนโลยีที่เลิศล้ำขนาดไหน แต่การปลูกก็ต้องใช้น้ำอยู่ดี เลี้ยงสัตว์ก็ต้องให้น้ำ ถ้าไม่มีน้ำจะต่อยอดยังไง? ยิ่งกว่านั้นคนไทยทุกบ้านเจอปัญหา “หนี้”
นายชัชวาลล์ กล่าวต่อว่า จากการทำนาในครั้งนี้ ได้ผลดี โดยเราไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี ได้ข้าวเปลือก ตกไร่ละประมาณ 700 กิโลกรัม ก็ถือว่าเป็นผลผลิตที่ดีมาก คาดว่าปีหน้าคงจะได้ข้าวเปลือกมากกว่านี้ และการทำนาในครั้งนี้ได้มีนางสาว ธนนันท์ชา กิจสว่างพงษ์กุล ประธานกรรมการบริษัท ริคโค้ ริช อินเตอร์ จำกัด สินค้า วัสดุปรับปรุงดิน พรทิพย์และอาหารเสริมพืชอินทรีย์ชนิดน้ำอีลิทแพลนโตได้เข้ามาช่วยในการดูแลบำรุงต้นข้าวโดยผสมผสานกับวิธีการใหม่ๆ เครื่องไม้เครื่องมือในการทำนาก็ล้วนแล้วแต่มีการประยุกต์ของเก่าผสมกับของใหม่ จึงได้ผลผลิตที่ดีออกมา ที่นาแห่งนี้สามารถจะเป็นพื้นนา เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งสาธิตในการทำเกษตรวิธีใหม่ โดยไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี หากใครสนใจสามารถมาศึกษาดูงานได้ และหลังจากที่เกี่ยวเสร็จแล้ว จะนำข้าวเปลือกไปสีเป็นข้าวสาร เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับคนจน อีกส่วนหนึ่งก็จะนำเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ในการปลูกข้าวต่อไปผมจะทำแบบนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนจนกว่าผมจะตาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น